รัฐบาลที่ดีต้องมีความชอบธรรม เสถียรภาพทางการเมืองและประสิทธิภาพการบริหาร กล่าวคือ
ประการที่แรก ความชอบธรรม(Legitimacy) รัฐบาลที่มีความชอบธรรมทางการเมือง โดยได้รับเลือกตั้งเสียงข้างมากโดยชอบธรรมจากประชาชนตามรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมิใช่จากการรัฐประหาร
ประการที่สอง เสถียรภาพทาง(Stability)การเมืองของรัฐบาลคือพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งโดยเสียงข้างมากโดยชอบธรรมจากประชาชนจัดตั้งรัฐบาลในประบอบประชาธิปไตย
ประการที่สาม ประสิทธิภาพ(Efficiency) การบริหารของรัฐบาลต้องปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) มีรายได้เข้ารัฐ ไม่เป็นหนี้สินมีเงินคงคลังแก้ไขปัญหาได้ทั้งระบบเศรษฐกิจ และสามารถนำนโยบายไปสู่ปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชน
"ลอร์ดแอคตัน กล่าวว่า อำนาจนำไปสู่ความฉ้อฉลอำนาจเบ็ดเสร็จยิ่งฉ้อฉลเบ็ดเสร็จ" รัฐบาล Junta มีอำนาจเบ็ดเสร็จ แม้ว่ามีความมั่นคงจากรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลในขณะนั้นปี49/57 ซึ่งใช้อำนาจกฏหมายโดยนิติวิธีจำกัดสิทธิพลเมือง คือสิทธิเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ ทางการเมืองของประชาชน แต่ในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลนี้มีที่มาไม่มีความชอบธรรม และไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารการพัฒนาประเทศ ไม่มีความโปร่งใสแต่ตรวจสอบไม่ได้ คณะรัฐบาลขณะนี้ไม่ใช่นักบริหารมืออาชีพ การบริหารประเทศมีแต่รายจ่ายไม่มีรายได้เข้ารัฐ ทำให้ประเทศเป็นหนี้จำนวนมหาศาล เงินคงคลังหมด ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจประเทศ เพิ่มภาระให้ประชาชน ประเทศเปรียบเสมือนร่างกายที่เลือดกำลังไหลออกอย่างไม่หยุด และกำลังก้าวเดินไปสู่ความล้มเหลวและหายนะที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในอนาคต
สภาพการเมืองประชาธิปไตยไทย รัฐบาลเผด็จการจึงไม่มีความชอบธรรม และไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ไม่มีประสิทธิภาพในการกำหนดนโยบายและการบริหารพัฒนาด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทำให้ประเทศถอยหลังไม่พัฒนาในทุกด้าน ประชาชนระดับล่างเดือดร้อน "สภาพคนไทยโง่จนเจ็บ 80% ของประเทศ" ชาวนาเจ็ง จน เป็นหนี้ เป็นความล้มเหลวของรัฐบาลเผด็จการซึ่งนำความล่มสลายสู่ประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น