การเมืองประเทศไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาบ้านเมืองวุ่นวายภายใต้ทฤษฏีสมคบคิดของกลุ่มการเมืองและผลประโยชน์ฝ่ายเผด็จการที่กระสันอำนาจและผลประโยชน์ พวกขี้แพ้ชวนตีไม่ยอมรับเสียงข้างมากตามหลักการประชาธิปไตย
การก่อวิกฤติความขัดแย้งทางการเมือง เป็นเงื่อนไขให้กองทัพรัฐประหาร2549/2557 ตั้งรัฐบาลเผด็จการทหาร(Junta) โค่นอำนาจรัฐบาล่ฝ่ายประชาธิปไตยที่มาจากเสียงข้างมากโดยชอบธรรมของประชาชน ซึ่งส่งผลกระทบด้านลบอย่างยิ่งต่อภาพพจน์ของประเทศและการพัฒนาการเมืองเศรษฐกิจสังคมประเทศไทย
รัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับเผด็จการ ที่ร่างโดยคณะเผด็จการเพื่ออำนาจเผด็จการ รัฐธรรมนูญจึงไม่ใช่กฏหมายสูงสุดแต่กลายเป็นเครื่องมือรั้งและกุมอำนาจของเผด็จการทหาร ตามวัฏจักรวงจรอุบาทว์การเมืองไทย... รัฐประหาร รัฐธรรมนูญ เลือกตั้ง รัฐสภา ตั้งรัฐบาล เฉลี่ยทุก6ปี เพื่อให้เผด็จการทหารคุมอำนาจบริหารประเทศ
การเมืองประเทศไทยวันนี้ การเลือกตั้งสส.เป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา พรรครัฐบาลเผด็จการทหารกล้ากล่าวว่ารัฐธรรมนูญ 2560 นี้ออกแบบมาเพื่อเรา..(พปชร) มันแสดงให้เห็นถึงความเอาเปรียบไม่เป็นธรรมในการเลือกตั้งตามร่างรัฐธรรมนูญ โดยคนของเผด็จการเพื่อเผด็จการกฏกติกาที่ไม่เป็นธรรมกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย.ไม่ให้ความสำคัญอำนาจอธิปไตยประชาชน เปรียบเช่น "ต้นไม้พิษนั้นย่อมต้องออกลูกเป็นผลไม้พิษ ไม่แฟร์เพลย์ ไม่แฟร์เกม" พรรคเพื่อไทยฝ่ายประชาธิปไตยได้สส.เสียงข้างมากในสภาแ่ต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่พรรคพปชร.ฝ่ายเผด็จการที่ได้เสียงสส.ข้างน้อยในสภากลับจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ส่งผลกระทบต่อระบบการเมือง ระบบเศรษฐกิจ และระบบสังคม ของประเทศ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กชื่อ สมชัย ศรีสุทธิยากร โดยกล่าวถึงข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญ 2560 เบื้องต้น 8 ข้อ ระบุว่าใครบอกยังไม่พบข้อบกพร่องรัฐธรรมนูญฉบับนี้
1.ระบบเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว ทำให้การเลือกตั้งผิดเพี้ยน คนเลือกไม่ได้เลือก ส.ส. แต่เลือกพรรค เลือกนายกฯ เป็นหลัก (ดูจาก คะแนนที่ พลังประชารัฐได้ จากการชู พลเอกประยุทธ์ และ อนาคตใหม่ได้ จากการชูธนาธร)
2.ระบบการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพิศดาร พรรคจิ๋วที่ได้คะแนนต่ำกว่าเกณฑ์คะแนนเฉลี่ย กลับได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้าสภา ทำให้มีพรรคการเมืองหนึ่งเสียงในสภาทั้งๆที่ได้คะแนนรวมทั้งประเทศต่ำกว่า 71,000 คะแนนถึง 11 พรรค แต่พรรคที่ได้ สส.เขตมากสุดกลับไม่ได้สส.บัญชีรายชื่อคือเป็น =0 คน
3.ทำให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพ ประกอบด้วยพรรคร่วมรัฐบาลถึง 19 พรรค หนำซ้ำยังเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำที่พร้อมจะไปได้ตลอดเวลา เวลาลงมติทุกครั้งต้องลุ้นแบบใจหายใจคว่ำ เวลาเลือกตั้งซ่อม ต้องสวดมนต์ภาวนาไม่ให้แพ้ฝ่ายค้าน
4.การให้ ส.ส.มีเอกสิทธิ์ในการลงคะแนนโดยไม่จำเป็นต้องตามมติพรรค เปิดช่องทางให้ซื้อขายตัว ส.ส. โดยไม่เกรงกลัวถูกขับออกจากพรรค เพราะยังไม่ขาดสมาชิกภาพหากสามารถหาพรรคใหม่ได้ภายใน 30 วัน เข้าทำนองเตะหมูเข้าปากหมา ระบบพรรคการเมืองก็อ่อนแอ
5.ปัญหาการตีความรัฐธรรมนูญมากมาย เนื่องจากไม่เขียนให้ชัด เช่น ส.ส.ถูกจำคุกถือว่าขาดสมาชิกภาพหรือไม่ พรรคที่ยุบพรรคตัวเอง เวลาไปอยู่พรรคใหม่เป็นลำดับที่เท่าไรของบัญชีรายชื่อพรรคใหม่ ส.ส.ที่ถือหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนว่าทำสื่อแต่จริงๆไม่ได้ทำถือว่าขาดคุณสมบัติหรือไม่ ฯลฯ
6.มี กลไก ส.ว. ที่กลายเป็นสภาค้ำจุนอำนาจรัฐบาลจากซีกฟากที่แต่งตั้งตัวเองเข้ามา ไม่ใช่มี ส.ว. เพื่อเป็นสภาผู้ทรงวุฒิ ที่มาเติมเต็มการทำงานของรัฐสภา
7.การกำหนดคุณสมบัติและวิธีการได้มาซึ่งองค์กรอิสระขั้นมหาเทพ กลับกลายเป็นข้อจำกัดในการได้คนดีคนเก่งมาทำงานอย่างแท้จริง แต่กลายเป็นสุสานของข้าราชการระดับสูงที่เกษียณอายุ
8.การออกแบบกลไกในการแก้ที่ยากเย็น แค่แก้วิธีการแก้ ก็ยังต้องมี ส.ว.1 ใน 3 เห็นชอบทั้งในวาระ 1 และ วาระ 3 และยังต้องไปผ่านประชามติ เหมือนขายของที่ไร้คุณภาพแถมยังบอกไม่มีประกันและไม่รับคืน
ในเบื้องต้นเอาแค่นี้ก่อนใครเห็นจุดไม่ดีตรงไหนช่วยกันบอกให้ได้ยินไปถึงคนหูตึงที่ไม่สนใจให้ความสำคัญเอาเปรียบประชาชน
ผุ้เขียนพิจารณาเห็นว่า จากข้อเท็จจริงปรากฏว่าการบริหารเลือกตั้งสส.และคัดสรรสว.ของคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ผ่านมาตามรัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับเผด็จการ ก่อให้เกิดปัญหาความไม่เป็นกลาง บริสุทธิ์ ยุติธรรมในเชิงนโยายและปฏิบัติของ กกต.ในการบริหารจัดการเลือกตั้ง ที่สำคัญหลายประการ กล่าวคือ
1.ปัญหาสิทธิเสรีภาพเสมอภาคทางการเมืองของพรรคการเมืองและประชาชนบนพื้นฐานหลักสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ
2.ปัญหาความโปร่งใสและความไม่ชอบธรรมในกระบวนการคัดสรรสว.และอำนาจหน้าที่สว.ตาม รธน.
3.ปัญหาความโปร่งใสและความไม่ชอบธรรมในกระบวนการเลือกตั้งสส.และวิธีการคิดคะแนนและจำนวนสส.ปาร์ตี้ลิสต์ที่แต่ละพรรคได้รับในการเลือกตั้ง
4.ปัญหานายกรัฐมนตรีไม่ใช่สส.และให้สว.มีอำนาจโหวตชื่อนายกฯร่วมสส.ในสภาขัดหลักการประชาธิปไตย
5.ปัญหาที่มาและอำนาจของสว.และสส.ไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตยสากล
6.ปัญหาความเป็นกลาง บริสุทธิ์ ยุติธรรมในการบริหารจัดการเลือกตั้งของ กกต.
7.ปัญหาสองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการกระทำผิดกฏหมายเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้งในแต่ละพรรค
8.ปัญหามาตรฐานยุติธรรมขององค์กรอิสระต่างๆในการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ตามกฏหมาย
9.ปัญหาอื่นๆ
ดัชนีวัดประชาธิปไตย 5 มิติสำคัญ คือกระบวนการเลือกตั้งและพหุนิยม (Electoral Process and Pluralism) เสรีภาพพลเมือง (Civil Liberties) การทำงานของรัฐบาล (Functioning of Government) การมีส่วนร่วมทางการเมือง (Political Participation) และวัฒนธรรมการเมือง (Political Culture )และเป็นตัวชี้วัดว่าประเทศใดเป็นประชาธิปไตย
ด้วยเหตุผลดังกล่าว รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาเป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการทหาร ทั้งนี้การเลือกต้้งครั้งนี้เป็นเพียงพิธีกรรมยึดครองอำนาจต่อเนื่องเป็นวงจรอุบาทว์การเมืองไทย ไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตยสากล เราจึงไม่ได้รัฐบาลเสียงข้างมากโดยชอบธรรมของประชาชน "รัฐบาลประชาธิปไตยโดยประชาชน ของประชาชน เพื่อประชาชน"โดยอาศัยอำนาจอธิปไตยปวงชนชาวไทยเท่านั้น จึงสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย ในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภามีกษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งเป็นพื้นฐานการเมือง เศรษฐกิจ สังคมในการพัฒนา "ประเทศไทย: ทันสมัยและพัฒนา" ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองเป็นที่ยอมรับของชาวโลก
ในทฤษฏีทางรัฐศาสตร์เห็น่ว่าภายใต้รัฐบาลเผด็จการพปชร.มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี "ที่มีปัญหาความชอบธรรมและเสถียรภาพทางการเมืองและประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ" ผลลัพธ์คือประเทศกำลังเสื่อมทรุดทุกระบบส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาในด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม เป็นความล้มเหลวของประเทศของรัฐบาลเผด็จการ ซึ่งประเทศเปรียบเสมือนร่างกายมนุษย์ที่เลือดกำลังไหลออกไม่หยุดขณะนี้ กล่าวคือ
1.ปัญหารัฐบาลใช้อำนาจเผด็จการ การสืบทอดอำนาจของรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ2560 ก่อให้เกิดปัญหาธรรมาภิบาลการเมือง การบริหาร และการยุติธรรมของรัฐบาล หน่วยงานรัฐ และองค์กรอิสระ ไม่ปฏิบัติตามหลักสิทธิพลเมืองคือสิทธิ เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพในทางการเมือง การบริหารและการยุติธรรมบนพื้นฐานหลักสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ
2.ปัญหาเศรษฐกิจถดถอยโรงงานปิดนับพันคนตกงานเพิ่่มขี้นจำนวนมาก ผลิตผลการเกษตรราคาตกต่ำเกษตรกรเป็นหนี้ล้นพ้นตัว การใช้จ่ายงบประมาณซื้ออาวุธมหาศาลโดยไม่จำเป็นและไม่คุ้มค่า เงินคงคลังหมดต้องกู้เงินมาใส่ทดแทน กู้เงินเป็นหนี้มหาศาล รายได้ส่งออกของรัฐลดลงเป็นภาระขึ้นภาษีประชาชน ค่าครองชีพสูงและสินค้าและสาธารณูปโภคราคาแพงขึ้น รัฐบาลแจกเงินประชาชนไม่สามารถแก้ไขกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบเพราะเงินไหลผ่านประชาชนไปเข้ากระเป๋านายทุนเจ้าสัวนายทุนต่างๆ คนรวยรวยขึ้นแต่คนจนจนลง คนจนร้อยละ80
ในทฤษฏีทางรัฐศาสตร์เห็น่ว่าภายใต้รัฐบาลเผด็จการพปชร.มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี "ที่มีปัญหาความชอบธรรมและเสถียรภาพทางการเมืองและประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ" ผลลัพธ์คือประเทศกำลังเสื่อมทรุดทุกระบบส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาในด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม เป็นความล้มเหลวของประเทศของรัฐบาลเผด็จการ ซึ่งประเทศเปรียบเสมือนร่างกายมนุษย์ที่เลือดกำลังไหลออกไม่หยุดขณะนี้ กล่าวคือ
1.ปัญหารัฐบาลใช้อำนาจเผด็จการ การสืบทอดอำนาจของรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ2560 ก่อให้เกิดปัญหาธรรมาภิบาลการเมือง การบริหาร และการยุติธรรมของรัฐบาล หน่วยงานรัฐ และองค์กรอิสระ ไม่ปฏิบัติตามหลักสิทธิพลเมืองคือสิทธิ เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพในทางการเมือง การบริหารและการยุติธรรมบนพื้นฐานหลักสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ
2.ปัญหาเศรษฐกิจถดถอยโรงงานปิดนับพันคนตกงานเพิ่่มขี้นจำนวนมาก ผลิตผลการเกษตรราคาตกต่ำเกษตรกรเป็นหนี้ล้นพ้นตัว การใช้จ่ายงบประมาณซื้ออาวุธมหาศาลโดยไม่จำเป็นและไม่คุ้มค่า เงินคงคลังหมดต้องกู้เงินมาใส่ทดแทน กู้เงินเป็นหนี้มหาศาล รายได้ส่งออกของรัฐลดลงเป็นภาระขึ้นภาษีประชาชน ค่าครองชีพสูงและสินค้าและสาธารณูปโภคราคาแพงขึ้น รัฐบาลแจกเงินประชาชนไม่สามารถแก้ไขกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบเพราะเงินไหลผ่านประชาชนไปเข้ากระเป๋านายทุนเจ้าสัวนายทุนต่างๆ คนรวยรวยขึ้นแต่คนจนจนลง คนจนร้อยละ80
3.ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นและความยุติธรรมไม่เท่าเทียมกันในสังคม ปัญหาการศึกษาจบแล้วไม่มีงานทำ ปัญหาภัยคุกคามพระพุทธศาสนาจากรัฐบาลเผด็จการ ปัญหาการจัดสรรทรัพยากรทีไม่เป็นธรรม แก่ประชาชน ปัญหาคุณภาพชีวิตของประชาชนปัญหาขบวนการมุสลิมแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ และอื่นๆ
พรรคการเมืองและประชาชนในชาติถูกทำให้อ่อนแอลง ด้วยสร้างความหวาดกลัว โยนความเลวให้ผู้เห็นต่างทางการเมือง เพื่อให้สยบยอมต่ออำนาจเผด็จการ ทำให้ประชาชนยอมสยบโดยง่าย ต่อการปกครองใต้ปีกปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหารในปัจจุบัน
อนาคตการเมืองประเทศไทย ก้าวไม่พ้นระบอบอำนาจนิยมเผด็จการ Junta ภายใต้วงจรอุบาทว์ รัฐประหาร รัฐธรรมนูญ จัดเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาล โดยไม่พัฒนาสู่ระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าจะก้าวหน้าหรือว่าถอยหลัง "ประเทศไทย: ทันสมัยแต่ไม่พัฒนา" เพราะสภาพสังคมไทยคนไทยยังโง่จนเจ็บกว่า 80% ของประเทศ ประชาธิปไตยไม่มีผู้ปกครองใดหยิบยื่นให้ประชาชน แต่ประชาธิปไตยจะได้มาด้วยการต่อสู้ของประชาชน ชะตากรรมประเทศคือชะตากรรมประชาชน อนาคตประเทศคืออนาคตประชาชน"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น