การเมืองท้องถิ่นประชาชน การเลือกตั้งผู้บริหารมหานครของประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ในวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556 ปรากฏว่า คุณชายสุขุมพันธ์ บริพัตร เบอร์ 16 พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผลคะแนนอย่างเป็นทางการ 50 เขต เบอร์ 9 พงศพัศ พงษ์เจริญ พรรคเพื่อไทย ชนะ 11 เขตมีดุสิต หลักสี่ บางเขน สายไหม ดอนเมือง คันนายาว ลาดกระบัง คลองสามวา หนองแขม บางซื่อ หนองจอก ได้1,077,899 เขตที่เหลือเป็นของ เบอร์ 16 คุณชายสุขุมพันธ์ บริพัตร พรรคประชาธิปัตย์ ชนะ 39 เขตได้ 1,256,349 คะแนน
โพลการเมืองทุกสำนักทำแบบมาตรฐาน ผลพบว่า เบอร์ 9 มีคะแนนำ เบอร์ 16 แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามโพลเสมอไป เพราะโพลเป็นเพียงเครื่องมือในทางการเมือง เพื่อการศึกษาให้ทราบความนิยมในตัวผู้สมัครว่ามีมากน้อยเพียงไร เพื่อหาทางแนวทางแก้ไขเพิ่มความนิยมในตัวผู้สมัคร และโน้มน้าวจูงใจผู้เลือกตั้ง ถ้ามีวิธีแก้โพล ก็พลิกกลับได้ ฉันใดฉันนั้น
พรรคเพื่อไทย มีความสามารถในการนำเสนอวิธีการหาเสียงแบบสร้างสรรค์ ซึ่งก็ได้ผลมากๆ แต่เป็นการเน้น การตลาดในเชิงธุรกิจ มากกว่า การตลาดในเชิงการเมืองโดย มุ่งสร้างกระแสในภาพกว้างเน้นนำเสนอนโยบาย เพื่อสร้าง สตาร์ มากกว่าวิธีการ เจาะลึก เข้าถึงตรึงนานไปในพื้นที่ชุมชนต่างๆ แตกต่างกันครับ ที่จริงในทางการเมืองแล้วต้องให้น้ำหนักเท่าๆกัน และทำไปพร้อมๆกันจึงจะสามารถ ปิดจุดอ่อน เสริมจุดแข็ง
พรรคเพื่อไทย มีความสามารถในการนำเสนอวิธีการหาเสียงแบบสร้างสรรค์ ซึ่งก็ได้ผลมากๆ แต่เป็นการเน้น การตลาดในเชิงธุรกิจ มากกว่า การตลาดในเชิงการเมืองโดย มุ่งสร้างกระแสในภาพกว้างเน้นนำเสนอนโยบาย เพื่อสร้าง สตาร์ มากกว่าวิธีการ เจาะลึก เข้าถึงตรึงนานไปในพื้นที่ชุมชนต่างๆ แตกต่างกันครับ ที่จริงในทางการเมืองแล้วต้องให้น้ำหนักเท่าๆกัน และทำไปพร้อมๆกันจึงจะสามารถ ปิดจุดอ่อน เสริมจุดแข็ง
พรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นต่อในฐานเสียงเดิมได้จัดตั้งไว้ตามชุมชนต่างๆอยู่แล้ว ซึ่งชัยชนะในครั้งนี้ได้มาโดยใช้วิธีหาเสียงแบบไม่สร้างสรรค์ กล่าวหาใส่ร้ายโจมตีฝ่ายตรงข้าม และวิธีการเคาะประตูบ้านโดยจัดทีมลงพื้นที่ในชุมชนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ว่ากันว่ามีข้อมูลว่า นอกจากงบหาเสียงตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด เขาใช้อย่างเต็มที่แล้ว ยังมีทางลับทุ่มงบประมาณหาเสียงที่ไม่มีการลงบัญชีอย่างเต็มที่ ตรวจสอบไม่ได้ใช้ในการหาเสียงเพราะแพ้ไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร ขอชมเชยและให้กำลังใจคุณพงศพัศ พงษ์เจริญ และทีมงานพรรคเพื่อไทยได้ทำดีที่สุดแล้วและคุ้มค่า ทำให้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเกินล้าน อย่างไม่เคยมีมาก่อนในการเลือกตั้งว่าราชการกรุงเทพมหานครทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องคิดหนักในการเลือกตั้งต่อไป เรียกว่า เป็นชัยชนะของผู้แพ้
ในพื้นที่การเมืองกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทยต้องเริ่มทำงานการเมืองให้หนักมากกว่านี้ และต่อเนื่องตั้งแต่บัดนี้ ในสถานการณ์ปกติแทบจะไม่มีเลยนอกจากเขตที่มี ส.ส. ส.ก. และส.ข.จากวิเคราะห์คะแนนที่ได้ พรรคเพื่อไทยสูญเสียฐานเสียงเดิมของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ได้แก่ เขตลาดพร้าว เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตบึงกุ่ม เขตสะพานสูง ชนะเขตเดียวคือเขตคันนายาว คุณวิชาญ มีนชัยนันท์ สูญเสียฐานเสียงในเขตมีนบุรี คุณเฉลิม อยู่บำรุง สูญเสียฐานเสียงใน เขตบางบอน แต่พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงเพิ่มในบางเขตได้แก่ เขตหนองแขม เขตบางซื่อและอื่นๆ แต่มีบางเขตพรรคเพื่อไทยเกือบแย่งชิงการนำได้เพียงแพ้แค่หลักร้อย ได้แก่ เขตบางขุนเทียน เขตภาษีเจริญ เขตราษฎร์บูรณะ เขตตลิ่งชัน
ผู้เขียนขอแนะนำว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยอยากชนะทางการเมือง การเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร ต้องชนะใจประชาชนชาวกรุงเทพมหานครให้ได้ก่อน เพราะฝังรากลึกมานานกับพรรคประชาธิปัตย์ อันจะเป็นผลต่อการเลือกตั้งในระดับประเทศ จำต้องวิเคราะห์ฐานคะแนนเสียงที่ได้ในการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในครั้งนี้ และทำงานการเมืองเข้าถึงประชาชนอย่างต่อเนื่องภายใต้ยุทธศาสตร์ คุมพื้นที่ ชิงนำ แย่งดึง เข้าถึง และตรึงนาน เพื่อเตรียมการณ์อย่างเต็มที่ในการเมืองทุกระดับไม่ว่าจะเป็นการเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น