+atom.xml?redirect=false รู้อะไร@iTUKnowledge Blog keyword

หน้าเว็บ

วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

การเมืองหลั่งเลือดประชาชน

การต่อสู้ทางการเมืองของประชาชนในประเทศไทย การต่อสู้ระหว่างแนวคิดเก่าเผด็จการอนุรักษ์นิยม กับแนวแคิดใหม่ประชาธิปไตย รัฐบาลเป็นฝ่ายแนวคิดเก่าเผด็จการอนุรักษ์นิยม มวลชนเป็นฝ่ายแนวคิดใหม่ประชาธิปไตย การต่อสู้ของประชาชนเป็นการปกป้องสิทธิ เสรีภาพ เสมอภาคในทางการเมืองของประชาชน

การเมืองหลั่งเลือดประชาชน การรวมพลังกรีดเลือดของประชาชนนับล้านคนเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2553 เป็นการแสดงออกซึ่งความเสียสละ มีปณิธานแน่วแน่ มุ่งมั่นในระบอบประชาธิปไตคือสัญลักษณ์ของการต่อสู้ทางการเมืองโดยวิธีไร้ความรุนแรงเป็นการยกระดับเพิ่มแรงกดดันต่อเป้าหมาย วิธีที่ใช้ใจต่อใจ กระปีใจ ไร้ใจ ไร้กระปี่เป็นอาวุธที่บาดลึกเข้าไปในใจของเผด็จการ และคนทั่วโลกจะบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยและเป็นที่ประจักษ์ของคนทั้งโลกว่า นี่คือวีรบุรุษประชาธิปไตย ในขณะที่หลายคนจะได้รับการกล่าวขานว่าเป็นทรราชทางการเมือง

การหลั่งเลือดของประชาชน คนละ10ซี.ซี ให้ได้ 1ล้าน ซี.ซี ปฏิบัติการหลั่งเลือดประชาชนสะท้านโลกประท้วงรัฐบาลร่างทรงเผด็จการ ให้ยุบสภา คืนอำนาจประชาชน เพื่อนำเลือดประชาชนไปเทที่หน้าทางเข้าประตูทำเนียบรัฐบาล ในเวลา17.00น.ของวันที่ 16 มีนาคม 2553 พร้อมพราหมณ์อ่านโองการสาบแช่งเป็นการส่งสัญญาณ พร้อมสู้สุดชีวิตปณิธานแน่วแน่ มุ่งมั่นในระบอบการปกครองประชาธิปไตย ที่มีรัฐบาลเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน

ประชาธิปไตยของประชาชนไม่อาจต่อสู้ให้ได้มาภายในวันสองวัน การใช้วิธีรุนแรง เป็นเรื่องเป็นหรือตายของประชาชน จงใช้สติปัญญาที่เยียบเย็น กุมความชอบธรรมในการต่อสู้ ตีแผ่ความจริงความล้มเหลวในการบริหารของรัฐบาล เปิดโป่งอำนาจแฝงที่โค่นล้มล้างประชาธิปไตย และควบคุมอำนาจรัฐบาลโต้ตอบการปิดล้อมช่องทางการสื่อสารรับรู้ความจริงของประชาชน และทุนเอกชนที่สนับสนุนให้มีการโค่นล้มล้างรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย รวมทั้งมีการประสานงานกับแนวร่วมในรัฐสภาและนอกสภาขยายแนวร่วมเครือข่ายประชาชน และเผยแพร่แนวคิดการเมืองประชาธิปไตย

พลังอำนาจเดิมยังค้างคา เป็นการสะดุดชั่วคราว ไม่ตลอดไปแต่จะต้องดำเนิน และเป็นไปตามกฏอนิจจังของสังคม มวลประชาชนรวมพลังเหนียวแน่น เร่งปริวรรตการเมืองระบอบประชาธิปไตย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น