ประชาชนแสดงพลานุภาพทางการเมือง โศลกการเมืองดัดแปลงจาภคัมภีร์ภควัตคึตา มีว่าโอ้ อรชุน บัดนี้ถึงเวลาแล้วท่าน จงนำหน้าขบวนมหาศาลในการต่อสู้ทางการเมืองของประชาชน โหมคลื่นของปวงประชาชน ดุจพลานุภาพของกระแสน้ำที่ไหลบ่า เชี่ยวกราก พร้อมดันทำนบพังทะลาย กระแสน้ำทะลักต่อเนื่อง ถะถั่งโถมทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าด้วยวิธีสันติอหิงสา เพื่อ เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ จงทำใจให้ว่าง ปล่อยละวางสิ่งทั้งปวง รวมใจเป็นหนึ่ง เพื่อประชาธิปไตย
ยุทธศาสตร์การเมืองพลังประชาชน วันที่ 27 มีนาคม 2553 เวลาประมาณ 10.00 น.แกนนำ นปช.สั่งเคลื่อนมวลชนและประชาชนนับล้านคน เผชิญหน้ากับกำลังทหารด้วยความมีการจัดตั้งองค์กรที่ดี และเอกภาพในการนำ ทำให้มวลชนมีระเบียบในการเคลื่อนมวลชนแดงทั้งแผ่นดิน
ยุทธวิธีการรุก นับแต่การทำพิธีตามโหราศาสตร์พิชัยสงครามการเคลื่อนขบวนมวลชน ปิดลับ รวดเร็ว รวมกำลัง แบ่งกำลัง กระจายกำลังเคลื่อนกำลังและโยกย้ายกำลัง การส่งกำลังบำรุง โดยที่ฝ่ายรัฐบาลยังไม่ทันตั้งตัว
ยุทธวิธีป้องกัน จัดตั้งหน่วยอำนวยการ คอยหาข่าวติดตาม ประเมินสถานการณ์ สั่งการ สนับสนุนพร้อมมวลชน จำนวนมากเป็นทัพหลังที่คอยป้องกันที่มั่น และส่งกำลังสนับสนุนทัพหน้าทั้งนี้ยุทธวิธีการรุก การป้องกัน เป็นการเดินตามหลักพิชัยสงความ
ระบบอาวุธไร้ความรุนแรงคือ การเจรจาไมตรีจิตมิตรภาพ ปราศจากอาวุธโดยทำความเข้าในปัญหาที่เกิดขึ้น ให้แก่บรรดาเหล่าทหารหาญของรัฐบาลเป็นอาวุธที่แหลมคม มีประสิทธิภาพทิ่มแทงเข้าไปในใจของบรรดาเหล่าทหารตำรวจทั้งหลายจนยินยอมถอนกำลังจุดสุดท้ายเวลาประมาณ16.00น.ออกจากจุดที่ตั้งกลับไปยังกรมกองต่างๆที่ตรึงกำลังโอบล้อมมวลชนคนเสื้อแดงจำนวน8จุด คือวัดบวรนิเวศน์วรวิหาร วัดตรีทศเทพ วัดมกุฎกษัตริยาราม วัดแคนางเลิ้ง วัดโสมนัสวรวิหาร สนามม้านางเลิ้ง สวนสัตว์ดุสิต และโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย
ความชอบธรรมทางการเมืองของประชาชน การเคลื่อนขบวนประชาชนแสดงพลานุภาพทางการเมือง มวลชนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินเรียกร้องประชาธิปไตยที่มีรัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน โดยสันติวิธีไร้ความรุนแรง ในครั้งนี้ประชาชนสามารถกุมความชอบธรรมในการต่อสู้ทางการเมืองในการปกป้องเรียกร้องเสรรีภาพทางการเมืองระบอบประชาธิปไตย นักข่าวต่างประเทศเป็นข่าวไปทั่วโลก เป็นชัยชนะในทางสากลของประชาชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น