การชุมนุมทางการเมืองของประชาชน มวลชนและประชาชนจำนวนคนนับแสน รวมพลังชุมนุมทางการเมืองทวงคืนประชาธิปไตยในวันที่13เมษายน 2552 รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธสลายการชุมนุม บังเกิดเหตุการณ์ 13 เมษา ทมิฬ เป็นเหตุให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายในการชุมนุมประท้วงโดยสันติวิธีในการต่อสู้ทางการเมืองของประชาชน
ประชาชนพ่ายแพ้หรือชัยชนะทางการเมือง มักจะมีผู้กล่าวว่า การชุมนุมของมวลชน 13 เมษายน 2552 ประสบกับความพ่ายแพ้ ผู้เขียนมีความเห็นต่าง ซึ่งเห็นว่ามวลชน ประสบชัยชนะ ใน 2 ประการ คือ
1.กลุ่มมวลชนที่สามารถรวมพลังแสดงพลานุภาพ ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อกลุ่มประเทศ ในการประชุมอาเซียนซัมมิต เห็นว่า ประชาชนปฏิเสธอำนาจของรัฐบาลเนื่องจากรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เข้าสู่อำนาจโดยไม่ชอบธรรม ตามระบอบประชาธิปไตยเป็นรัฐบาลตัวแทนของเผด็จการทหารอำมาตยาธิปไตย จนประเทศต่างๆ ขอให้รัฐบาลประกาศยกเลิกการประชุมในที่สุด นับว่าเป็นความพ่ายแพ้ทางการเมืองของรัฐบาลอย่างไม่อาจ ปฎิเสธได้แต่อย่างใด
2.รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินกระทำการปิดล้อมโดย ใช้สื่อทุกประเภทบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร พร้อมใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธสงครามจะปิดล้อมและปราบปราบประชาชนให้สิ้นซาก ก็ปราบได้เฉพาะแนวป้องกันส่วนหน้า ไม่สามารถปราบปรามกำลังส่วนใหญ่ของมวลชนเสื้อแดงที่ชุมนุมรอบๆ ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากแกนนำมีความถนอมรักในมวลชน ใช้ปัญญาอย่างเยียบเย็น มีความกล้าหาญในการเสียสละตัวเองให้ถูกจับกุมคุมขัง แล้วประกาศยุติการชุมนุม เพื่อรักษากำลังส่วนใหญ่ และมิให้สูญเสียชีวิตมวลชน ซึ่งข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆได้ถูกนำเสนอเผยแพร่ในสื่อต่างประเทศ ก่อให้ภาพลักษณ์ที่เป็นลบแก่รัฐบาล เป็นชัยชนะในทางสากลของประชาชนในทางการเมือง
นี่เป็นชัยชนะทางการเมืองของประชาชน มิฉะนั้นไม่อาจมีวันชุมนุมทางการเมือง 20 มีนาคม 2553
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น