ทวงคืนการเมืองประชาธิปไตยของประชาชน

การทวงคืนการเมืองของประชาชน วันที่ 20 มีนาคม 23553 เวลา 10.00 น แกนนำ นปช. จัดขบวนนำเคลื่อนขบวนมวลชนและประชาชนนับแสนเป็นขบวนประท้วงทางการเมือง  พร้อมเปิดเพลงมาร์ชแดงทั้งแผ่นดิน จากบริเวณสะพานผ่านฟ้า ราชดำเนินเคลื่อนไปรอบกรุงเทพมหานคร รูปขบวนยาวกว่า 20 ก.ม. เพื่อทวงประชาธิปไตย ให้รัฐบาลยุบสภา คืนอำนาจการเมืองให้แก่ประชาชน

การรุกทางการเมืองของประชาชน ในครั้งนี้การเคลื่อนขบวนประชาชนนับแสนคน คงเป็นที่ตระหนกกับฝ่ายรัฐบาล จึงเร่งทำสงครามสื่อเพื่อชิงมวลชนให้กลับมาอยู่ข้างรัฐบาล โดยการปิดล้อมการสื่อสารในการรับรู้ให้แก่ประชาชน การใช้สื่อกระแสหลักเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาล การบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร(Info-Tactics)ก่อนนำเสนอประชาชน เสมือนยังอยู่ในยุคเผด็จการนาซี ฟาสซิสท์ ประกอบด้วยสื่อมวลชนและนักวิชาการที่ไร้จริยธรรมในวิชาชีพเพราะสื่อกระแสหลัก กับรัฐบาลต่างมีผลประโยชน์ตอบแทนซึ่งกันและกัน สื่อยากที่จะมีความเป็นกลางทางการเมือง ไม่อาจเป็นสุนัขเฝ้าบ้านให้ประชาชน

การป้องกันทางการเมือง ปัญหานี้ แกนนำ นปช.และประชาชนจะต้องหาวิธีแก้ไขและโต้ตอบสวนกลับโดยทันที เป็นการด่วนที่สุดเพื่อไม่ให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิด และได้ทราบความตามความเป็นจริง เพราะมันเป็นสงครามสื่อ และสงครามแย่งมวลชน รัฐบาลไม่ยุบสภา เพราะมั่นใจว่าสามารถปิดกั้นช่องทางการสื่อสารการรับรู้ของประชาชนซึ่งเป็นไม้ตายหนึ่งของรัฐบาล อีกไม้ตายหนึ่ง คือการใช้กำลังทหารตำรวจสลายการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนโดยจะใช้ไม้ตายทั้งสองพร้อมกัน รัฐบาลจะไม่อดทนเพราะอยู่นานยิ่งเสียรังวัดทางการเมือง การติดตาม ตรวจสอบ หาความจริง เปิดโปง นำเสนอในทางสากลจะต้องจับสัญญาณให้ได้ แล้ววางแผนล่วงหน้า เพื่อหาวิธีโต้ตอบทำลายยุทธวิธีของฝ่ายรัฐบาล เพิ่มระดับการกดดันทางกายภาพ มุ่งต่อเป้าหมาย เพิ่มและกระจายช่องทางการสื่อสารให้ถึงประชาชน วางแผนป้องกันการใช้กำลังทหาร ตำรวจ พร้อมอาวุธสลายการชุมนุมปราบปรามประชาชน

มวลประชาชน มีปณิธานแน่วแน่ มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อการเมืองในระบอบประชาธิปไตย